Creepypasta

 Creepypasta คืออะไร ?



    หลายๆคนคงจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่า "หนังสือ" หรือ "บทความ" กันนะครับ และทุกคนก็ต้องเคยอ่านกันมาแล้วโดยเฉพาะคนที่ชอบอ่านบทความและหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารบ้านเมือง เกม กีฬา ไลฟ์สไตล์ หรือแม้กระทั่งนิยายฟิกชันต่าง ๆ แต่ฟิกชันประเภทหนึ่งที่อยู่คู่กับพวกเรามานานแล้ว แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนนั่นคือ Creepypasta เรื่องเล่าหรือเกมสยองขวัญ ที่ถูกกล่าวถึงจนเป็นตำนานบนโลกไซเบอร์

จุดเริ่มต้น

    จุดเริ่มต้นของ Creepypasta นั้น เกิดขึ้นในช่วงต้นปีค.ศ. 1980 โดยชายที่มีชื่อว่า Jan Harold Brunvand นักคติชนวิทยาชาวอเมริกันชื่อดัง ได้มีการคิดค้นคอนเซปต์คำว่า ‘Urban Legend’ ในหนังสือ The Vanishing Hitchhiker: American Urban Legends and Their Meanings โดยความหมายที่เข้าใจง่ายที่สุดนั้นก็คือตำนานพื้นเมือง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ไว้ใช้สำหรับเรียกเรื่องราวความเชื่อ หรือตำนานร่วมสมัยนั่นเอง

    Brunvand ได้กล่าวว่าตำนาน Urban Legend นั้น มักจะเป็นการเล่าแชร์กันแบบปากต่อปากจนเกิดเป็นความเชื่อขึ้นมา โดยไม่มีหลักฐานข้อมูลยืนยันหรือสิ่งที่พิสูจน์ได้ และส่วนใหญ่มีเนื้อหา ‘ดีเกินกว่าจะเป็นความจริง’ ทั้งสิ้น ไม่ว่าตำนานขุมทรัพย์ ตำนานสยองขวัญ หรือเรื่องราวอะไรก็ได้ที่ทำให้เกิดความเชื่อใหม่ ๆ สามารถเรียกเป็น Urban Legend ได้ทั้งสิ้น

    อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงจากนิตยสาร Time – ในช่วงปีค.ศ. 1990 หรือยุคที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน เรื่องเล่า Urban Legend เริ่มเอนเอียงไปทางสยองขวัญมากขึ้น เพราะตอนนั้นเกิดกระแสการส่งจดหมายลูกโซ่ที่มีเรื่องเล่าสยองขวัญพร้อมแนบภาพถ่ายหรือวิดีโอ แล้วมักถูกแชร์ส่งต่อผ่านกระทู้อินเทอร์เน็ตและผู้ใช้อีเมลคนอื่น ทำให้เรื่องราว Horror ในจดหมายลูกโซ่หรือบนกระทู้อินเทอร์เน็ตกลายเป็น Urban Legend โด่งดังอย่างรวดเร็ว รวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนก็หลงเชื่อตำนานกันไปแบบเต็ม ๆ

    หรือสรุปง่าย ๆ แบบรวดเร็ว Creepypasta หมายถึงเรื่องราว Urban Legend แนวสยองขวัญที่ถูกแต่งขึ้นโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยใช้ภาพถ่าย การตัดต่อ หรือสื่อเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แล้วมีการแชร์ส่งต่อหรือเผยแพร่สู่ที่สาธารณะจนกลายเป็นเรื่องราวตำนานร่วมสมัย โดยบางเรื่องยังมีการดำเนินเนื้อหาต่อจนกลายเป็นซีรีส์ตำนานจนถึงทุกวันนี้

แล้วทำไมต้องใช้ชื่อ Creepypasta ? แล้วทำไมมันถึงดัง ?

    เกมเมอร์หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าความหมายที่แท้จริงของ Creepypasta มีจุดเริ่มต้นมาจากไหนกันแน่ ซึ่งแน่นอนว่าคำดังกล่าวไม่ได้หมายถึงอาหารพาสตาคุณภาพห่วย ๆ หากอ้างอิงจากคำตอบของสื่อ New York Times ในปี 2010 ที่กล่าวไว้ว่าคำนั้น เริ่มต้นใช้ครั้งแรกบนเว็บบอร์ด 4Chan ในปี 2007 โดยดัดแปลงจากศัพท์สแลงอินเทอร์เน็ต ‘Copypasta’ ที่ได้ดัดแปลงมาจาก ‘Copy-Patse’ (การกดก๊อบปี้แล้ววางนั่นแหละครับ) อีกทีหนึ่ง จนสุดท้ายชาว 4Chan เรียกกันว่า Creepypasta จนถึงทุกวันนี้

    ตอนแรก Creepypasta จะรู้จักกันแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ในปี 2010 สื่อ New York Times มีการเขียนบทความในหัวข้อว่า “เบื่อในที่ทำงานงั้นหรือ ? ลอง Creepypasta หรือ Webscare สิ” ทำให้ Creepypasta เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนมีการรวมเรื่องราว Creepypasta ต่าง ๆ มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ผ่านเว็บไซต์ Creepypasta.com, Creepypasta Wiki, Tumblr, the SCP Foundation และ Microhorror โดยบางสตอรี่ไม่มีการเปิดเผยชื่อคนเขียนอย่างชัดเจน หรือใช้แค่นามแฝงเท่านั้น

    เนื่องจากสตอรี่ Creepypasta มีจำนวนที่เยอะแยะมากมาย และไม่มีการเปิดตัวตนที่แท้จริงของคนเขียนเนื้อหา จึงยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า Creepypasta เรื่องไหนกันแน่ที่เป็น “เรื่องแรก” อย่างแท้จริง แต่อย่างน้อย เราสามารถยกตัวอย่าง Creepypasta ที่ดังกระฉ่อนโลก อย่างเช่น Slender Man, Ben Drowned, Jeff the Killer, Ted the Caver และ Sonic.exe

Creepypasta ส่งผลต่อเกมอย่างไร

    เนื่องจากเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้มีการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง ทำให้ Creepypasta ต่าง ๆ จรเริ่มมีการก้าวข้ามขีดจำกัดจากเดิมที่นำเสนอได้แค่ตัวหนังสือกับภาพถ่าย กลายเป็นเว็บไซต์เฉพาะของตัวเอง อย่างเช่น Username: 666 ที่เปลี่ยนหน้า YouTube ของคุณกลายเป็นสีแดงเลือดมีบรรยากาศราวกำลังตกนรกทั้งเป็น หรือถูกดัดแปลงเป็นวิดีโอเกมอีกด้วย

    เกม Creepypasta ที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่มีทางหนีพ้น Slender: The Eight Pages เกมอินดี้แนวสยองขวัญที่มีการอ้างอิงจาก Creepypasta ในชื่อเดียวกัน ผู้เล่นต้องเก็บกระดาษมาให้ครบ 8 แผ่นท่ามกลางป่าอันมืดมิดด้วยตัวคนเดียว โดยระหว่างการผจญภัยนั้นจะมี Slender Man ผีไร้หน้าสวมสูทตัวสูงแขนยาว มาคอยเดินตามหลังผู้เล่นแล้วปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์ หากผู้เล่นตาย ตัวเกมจะขึ้นใบหน้าของ Slender ก่อนจอดับแล้วขึ้น Game Over ทันที ซึ่งเกมนี้เคยได้รับความนิยมในหมู่ YouTuber เป็นอย่างมากในช่วงปี 2012


Sonic.exe

    Sonic.exe ถือว่าเป็นตัวอย่างเกม Creepypasta ที่สร้างความขนหัวลุกให้คนที่เป็นเกมเมอร์หลายคน ด้วยการม็อดเปลี่ยนบรรยากาศเกม Sonic: The Hedgehog กลายเป็นสยองขวัญอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการใส่เนื้อหาที่รุนแรง ดัดแปลงเพลงประกอบ และเปลี่ยนเนื้อหาทั้งหมด เป็นหนึ่งในเกม Creepypasta ที่น่าจดจำที่สุดจนถึงทุกวันนี้

    M A R I O ก็เป็นเกม Creepypasta ที่เริ่มต้นความหลอนด้วยการแจกไฟล์ข้อมูลแนบมาในชื่อว่า “3007014” ซึ่งเนื้อหาเป็นภาษาเอเลี่ยนไม่สามารถอ่านได้ และมีแต่คำว่า “find me find me find me find me find me find me” โดยเกม M A R I O จะไม่มีศัตรูตลอดทั้งเกม แต่สีของภาพจะซีดลง รวมถึงเกมเริ่มมีการบรรเลงเพลงประกอบชวนขนหัวลุก มีข้อความกล่าวหาว่าผู้เล่นเป็นคนที่ต่ำช้า และสุดท้ายเกมจะพาเราดำดิ่งสู่ความมืดมิดอย่างแท้จริง โดยเกมดังกล่าวมีเนื้อหาที่ดาร์กจิตตกใช้ได้เลย

   เกม Pokemon Lost Silver เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโรคซึมเศร้าระหว่างตัวละครต่างๆและตัว Pokemon เอง โดยการโจมตีของมอนสเตอร์จะมีการอ้างอิงมาจากอาการซึมเศร้าต่าง ๆ รวมถึงตัวละครเราจะไม่มีแขนหรือขา และน้ำตาไหลจะไหลเป็นสายเลือด

    
มีเกม Creepypasta อีกมากมายที่เราไม่สามารถยกตัวอย่างได้หมด เพราะมันมีเกมให้เลือกเยอะแยะมากมายเหลือเกิน แต่แน่นอนว่าเกมเมอร์สามารถลองหารายชื่อเกม Creepypasta เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Creepypasta wiki

    ปัจจุบัน เรื่องราวตำนาน Creepypasta ยังคงได้รับความนิยมไม่แตกต่างจากอดีตมากนัก บางเรื่องถูกนำไปแต่งเพิ่มเนื้อเรื่องจนกลายเป็นซีรีส์นิยายบนเว็บไซต์ หรือถูกดัดแปลงกลายเป็นเกมอินดี้ขนาดเล็ก ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าประหลาดใจไม่ใช่น้อยที่เรื่องราวสยองขวัญเล็ก ๆ ไว้สำหรับอ่านบนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นตำนานจนได้รับการกล่าวถึงทุกวันนี้ แม้เรื่องดังกล่าวจะดูเรื่องที่แต่งขึ้นมาเองก็ตาม

ความคิดเห็น